วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2552

*-*++MeThod AboUt FiT&FirM*-*++


การจำกัดปริมาณอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนักนั้น เป็นเรื่องยากสำหรับคุณผู้หญิง เพราะไหนจะต้องทนต่อความหิวจนกว่าจะผอม แต่พอผอมสมใจกลับโดนทักว่าทำไมดูซีดเซียว ไม่สดชื่น อวบอั๋นเหมือนตอนก่อนลดน้ำหนัก การรับประทานผลไม้จึงเป็นวิธีหนึ่ง ที่ช่วยแก้ปัญหาได้ทั้งการลดน้ำหนัก และการมีสุขภาพที่สดใส เพราะผลไม้ประกอบไปด้วยเส้นใยอาหาร (Fiber) ที่ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องมีน้ำตาลธรรมชาติที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้เร็ว และนำไปใช้งานได้ทันที นอกจากนี้ ผลไม้ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอีกนับไม่ถ้วน ช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ไม่ทรุดโทรม จึงเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักเป็นที่สุด เมื่อถามคนใกล้ตัวว่า "อยากลดน้ำหนักจะทานผลไม้อะไรดี?" เชื่อว่าคงได้คำตอบกว่าครึ่งเป็นผลไม้รูปร่างอวบอัดที่ชื่อว่า "แอปเปิ้ล" แน่ ๆ เพราะแอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่มีสีสันชวนรับประทาน เนื้อสัมผัสกรอบ รสชาติอร่อย กลิ่นหอม มีคุณค่าทางโภชนาการสูง หาทานได้ง่าย ราคาไม่แพง และที่สำคัญคือไม่ทำให้อ้วน แอปเปิ้ลจึงได้ชื่อว่าเป็น "ราชาแห่งผลไม้ลดน้ำหนัก".

แอปเปิ้ลให้สารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตและวิตามินซีเป็นหลัก ซึ่งปริมาณวิตามินซีจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ช่วงเวลาเก็บเกี่ยว และความสด เนื้อแอปเปิ้ล 100 กรัม มีวิตามินซีประมาณ 6 มิลลิกรัม และให้พลังงานราว 59 แคลอรี ไม่ทำให้อ้วน แต่แอปเปิ้ลก็มีสารอาหารที่มีประโยชน์ชนิดอื่นทดแทน แบบที่เรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าผลไม้อื่นแต่อย่างใด.

พลังงานที่ได้จากแอปเปิ้ลมีลักษณะพิเศษที่น่าสนใจคือ แอปเปิ้ลจะให้พลังงานค่อนข้างต่ำและค่อยเป็นค่อยไป เพราะแหล่งพลังงานของแอปเปิ้ลคือ น้ำตาลฟรักโทสซึ่งเป็นน้ำตาลที่เปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอย่างช้า ๆ ในร่างกายช่วยให้ไม่รู้สึกหิว อิ่มนาน ผลที่ตามมาคือ ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่สูงเร็วเหมือนกินขนมหวาน จึงเหมาะกับคนไข้เบาหวานด้วยเช่นกัน.

วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552

วันพ่อแห่งชาติ


วันพ่อแห่งชาติในประเทศไทยตรงกับวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยจัดติดต่อกันทุกปีตั้งแต่ พ.ศ. 2523 โดยการริเริ่มของ นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา คุณหญิงเนื้อพิทย์ เสมรสุต สัญลักษณ์ที่ใช้ในวันพ่อได้แก่ ดอกพุทธรักษาซึ่งมีชื่ออันเป็นมงคล
วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ในประเทศไทย นอกจากจะเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และเป็นวันพ่อแห่งชาติแล้ว ยังถือว่าวันนี้ เป็น “วันชาติของไทย” อีกด้วย


ประวัติ
วันพ่อแห่งชาติ ได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2523 โดยคุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา หลักการและเหตุผลที่มีการจัดตั้งวันพ่อขึ้นแห่งชาติ เนื่องจากพ่อ เป็นบุคคลผู้มีพระคุณและมีบทบาทสำคัญต่อครอบครัวและสังคม สมควรที่ผู้เป็นลูกจะเคารพเทิดทูนและตอบแทนพระคุณด้วยความกตัญญู และสังคมควรที่จะยกย่องให้เกียรติรำลึกถึงผู้เป็นพ่อ จึงถือเอาวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเป็น "วันพ่อแห่งชาติ" เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะ “พ่อแห่งชาติ” ซึ่งนอกจากพระองค์จะเป็นพระราชบิดาของพระราชโอรสและพระราชธิดา ทรงทะนุบำรุงพระราชโอรสธิดาด้วยความรัก และทรงอบรมอนุศาสน์ให้ทรงเจริญวัยสมบูรณ์ ทรงเป็น "พ่อ" ตัวอย่างของปวงชนชาวไทยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตากรุณา อีกทั้งยังทรงบำเพ็ญคุณานุประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน ทรงพระมหากรุณาทะนุบำรุงขจัดทุกข์ผดุงสุขพสกนิกรถ้วนหน้า พระองค์ทรงเป็น “พ่อแห่งชาติ” ที่อาณาประชาราษฎร์เทิดทูนด้วยความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และยึดมั่นในการเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทในการทะนุบำรุงชาติบ้านเมืองให้วัฒนาถาวรสืบไป


วัตถุประสงค์ของการจัดวันพ่อแห่งชาติ
เพื่อเทิดทูนพระเกียรติคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เพื่อเทิดทูนพระคุณของพ่อ และยกย่องบทบาทของพ่อที่มีต่อครอบครัวและสังคม
เพื่อให้ลูกได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อ
เพื่อให้ผู้เป็นพ่อ สำนึกในหน้าที่และความรับผิดชอบของตน


กิจกรรม
กิจกรรมในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในทุกๆ ปี จะมีการประดับธงชาติในทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ราชการ โรงเรียน บริษัท และบ้านเรือน เพื่อถวายพระพรให้พระองค์ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน และยังมีการทำความสะอาดแม่น้ำลำคลอง ถนน โรงพยาบาล และประดับรูปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไว้ที่หน้าบริษัทหรือหน่วยงานต่างๆ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย
กิจกรรมสำหรับลูกในวันพ่อแห่งชาติ คือ ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือน จัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ หรือบำเพ็ญกุศล ทำบุญใส่บาตร เพื่ออุทิศส่วนกุศล และระลึกถึงพระคุณของพ่อ
นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมประกาศเกียรติคุณ พ่อตัวอย่าง หรือพ่อดีเด่น โดยกำหนดคุณสมบัติ คือ มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ส่งเสริมการศึกษาของบุตร ธิดา นับถือศาสนาโดยเคร่งครัด งดเว้นอบายมุขทุกชนิด อุทิศตนเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณชน และมีภรรยาเพียงคนเดียว

วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

AmpaWa Floting Market


ในอดีตเมืองอัมพวาถือว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสงคราม มีตลาดน้ำขนาดใหญ่และชุมชนริมน้ำที่เป็นศูนย์กลางด้านพาณิชยกรรม แต่ผลกระทบของการพัฒนาการคมนาคมทางบก ทำให้ความเป็นศูนย์กลางฯ ของอัมพวาต้องสูญเสียไป ตลาดน้ำค่อยๆลดความสำคัญและสูญหายไปในที่สุด ทิ้งไว้แต่ร่องรอยของความเจริญในอดีตซึ่งยังคงปรากฏให้เห็นชัดเจนในทุกวันนี้ ทางเทศบาลตำบลอัมพวา โดยความร่วมมือร่วมใจของประชาชนในท้องถิ่น ได้ฟื้นฟูตลาดน้ำอัมพวาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่ออนุรักษ์ความเป็นอยู่ของชุมชนริมน้ำ ซึ่งในปัจจุบันจะหาดูได้ยาก ให้สืบทอดตลอดไป โดยใช้ชื่อว่า "ตลาดน้ำยามเย็น"

ตลาดน้ำโดยทั่วไปมักจะจัดขึ้นในเวลากลางวัน แต่ตลาดน้ำยามเย็น ที่อัมพวาแห่งนี้ จะจัดขึ้นในช่วงงเวลาเย็นเรื่อยไปจนถึงเวลาพลบค่ำ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นตลาดน้ำแห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดในลักษณะเช่นนี้ ในตอนเย็นชาวบ้านจะเริ่มทยอยพายเรือนำสินค้าหลากหลายนานาชนิด อาทิ อาหาร ผลไม้ พืชผัก ขนม ของกินของใช้ มาขายให้กับนักท่องเที่ยว หรือคนในท้องถิ่นที่สัญจรไปมาที่ตลาดอัมพวา ทำให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติของชีวิตของชุมชนริมน้ำ ซึ่งเป็นที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวสามารถที่จะหาซื้ออาหารมานั่งรับประทาน บริเวณริมคลองอัมพวาติดกับตลาดน้ำ ซึ่งได้มีการจัดสถานที่ไว้ ทำให้มีความสะดวกสบายมากยิ่ง

การเดินทาง

ทางรถยนต์
จากตัวจังหวัดใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 325 ทางเดียวกับไปอำเภอดำเนินสะดวกและอุทยาน ร.2 ประมาณ 6 กม ก่อนถึงสามแยกไฟแดง มีทางแยกทางซ้ายเข้า อ.อัมพวา ไปอีกประมาณ 800 เมตร. ทางแยกซ้ายมือ เข้าตลาดอัมพวา จอดรถบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภออัมพวา


รถประจำทางจากสถานีขนส่งสายใต้

รถสาย 996 กรุงเทพฯ-ดำเนินฯ เป็นรถปรับอากาศ ผ่านจังหวัดสมุทรสงครามถึงตลาดอัมพวา

สาย 976 กทม.-สมุทรสงคราม ถึงสถานีขนส่งสมุทรสงคราม ขึ้นรถประจำทางสาย 333 แม่กลอง-อัมพวา-บางนกแขวก ถึงตลาดอัมพวา

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

----++ เปอร์เซีย----++


แมวมีชื่อเรียกทั่วไปในภาษาลาตินว่า "เฟลิส คาตัส" (Felis Catus) เป็นสัตว์เก่าแก่ดึกดำบรรพ์ แมวมีอยู่ในทุกทวีป รูปร่างลักษณะและโครงสร้างคล้ายคลึงกัน แต่ขนาดอาจผิดกันและความยาวของขนต่างกัน แมวเมืองหนาวมีขนยาวกว่าแมวในเมืองร้อน แมวที่นิยมเลี้ยงกันมีหลายพันธุ์ เช่นพันธุ์เปอร์เซีย และพันธุ์ไทยเป็นต้นชาวตะวันตกเชื่อว่าแมวนั้นเดิมเป็นสัตว์ในแอฟริกา ชาวอียิปต์นำมาเลี้ยงไว้ในบ้าน แมวจึงอยู่กับคนเรื่อยมา จนในที่สุด เผ่าพันธุ์ของแมวก็กระจายไปทุกหนทุกแห่งทั่วโลก แมวพันธุ์แรกคือ อบิสซีเนียขายาว หน้าแหลมยาว ต่อมาจึงมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างลักษณะออกไปต่างๆ นานาตามหลักทางชีววิทยา แต่แมวที่ยังคงลักษณะรูปเดิม คือมีรูปร่างเพรียว หน้าแหลม ตาคม สัญนิฐานว่าเหลือเพียงสามพันธุ์ในโลก คือ แมวอบิสซิเนียน แมวอียิปต์ และแมวไทยแมวทั้งสามพันธุ์นี้หน้าตาไม่แตกต่างกันมากนัก สองชนิดแรกสัญนิฐานว่าอาจสูญพันธุ์ไปแล้ว คงเหลือแต่"แมวไทย"ที่นับเป็นพันธุ์เก่าแก่ที่สุดในโลกอยู่พันธุ์เดียว บรรพบุรุษของแมวไทยน่าจะเป็นแมวอียิปต์ เพราะมีรูปร่างหน้าตาที่คล้ายกันมาก โดยที่ทางอียิปต์เรียกแมวว่า "เมียว" มีข้อสันนิษฐาน การมาของแมวมายังแถบตะวันออกว่าว่า ในการเดินเรือการค้าสมัยโบราณจากอียิปต์มายังแถบตะวันออก อาจจะมีกะลาสีเอาแมวใส่ไว้ในเรือเพื่อจับหนู แมวอียิปต์จึงมาเผยแพร่ถึงทางตะวันออกก็เป็นได้ แต่ยังไม่มีหลักฐานใดที่สามารถยืนยันในสมมติฐานข้อนี้ได้

แมว มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Felis Catus นักชีววิทยาค้นพบว่า บรรพบุรุษของแมวถือกำเนิดขึ้นกว่า 50 ล้านปีมาแล้ว เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และกินเนื้อเป็นอาหาร เรียกว่า Miacis และได้วิวัฒนาการขั้นมาจนเริ่มมีลักษณะคล้ายแมวเมื่อ 10 ล้านปีก่อน มีขนาดและรูปร่างใกล้เคียงกับแมวป่าที่มีเขี้ยวขนาดใหญ่ เรียกว่า Dinistis

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

...+-+-+-+-+Snamchantra Palace...--+-+-+-+-+-


Sanam Chandra Palace is a tiny castle-like structure built in a combination of French and English styles, but with adaptions for the tropical climate The palace grounds is located on a site Nakhon Pathom, Thailand and consists of five buildings and a Ganesh shrine. The palace was built from 1907 to 1911 by King Vajiravudh (Rama VI), and has a view of Phra Pathom Chedi.
Part of the site is presently a campus of
Silpakorn University. On December 5, 2003 the university returned the palace and surrounding satellite buildings to the Bureau of the Royal Household following the wishes of HRH Princess Bejaratana Rajasuda Sirisobhabannavadi who is the daughter of the former king.
Sanam Chandra Palace celebrated its 100-year anniversary from
November 23, 2007 to December 2, 2007.

วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2552

!!!! PepS! +++


Pepsi is a carbonated soft drink produced and manufactured by PepsiCo. It is sold in many places such as retail stores, restaurants, schools, cinemas and from vending machines. The drink was first made in the 1890s by pharmacist Caleb Bradham in New Bern, North Carolina. The brand was trademarked on June 16, 1903. There have been many Pepsi variants produced over the years since 1898.
In October 2008, Pepsi announced that it would be redesigning its logo and re-branding many of its products by early 2009. In 2009, Pepsi,
Diet Pepsi and Pepsi Max began using all lower-case fonts for name brands, and Diet Pepsi Max was re-branded as Pepsi Max. The brand's blue and red globe trademark became a series of "smiles," with the central white band arcing at different angles depending on the product. Pepsi in countries such as the U.S., Canada, Brazil, Bolivia, Guatemala, Nicaragua, Honduras, El Salvador, Colombia, Argentina and Puerto Rico is carrying the "smile" logo, while the rest of the countries continue to use the old design on all packaging.
In mid-September 2009,the new logo has started to appear on 300 and 600ml bottles of Pepsi .

วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2552

WoW!!! กินเจ จิตใจแจ่มใส WoW!!!


คำว่า "เจ" ในภาษาจีนทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานมีความหมายว่า "อุโบสถ" เดิมหมายความว่า "การรับประทานอาหารก่อนเที่ยงวัน" ตามแบบอย่างของชาวพุทธที่รักษาอุโบสถศีล หรือรักษาศีล 8 ที่จะไม่รับประทานอาหารหลังเที่ยงวันไปแล้ว แต่สำหรับพุทธนิกายมหายานนั้น การรักษาอุโบสถศีลจะรวมถึงการไม่รับประทานเนื้อสัตว์ด้วย เราจึงนิยมเรียกการไม่ทานเนื้อสัตว์รวมไปกับการกินเจ ในปัจจุบันผู้ที่รับประทานอาหารทั้ง 3 มื้อ แต่ไม่กินเนื้อสัตว์ก็ยังคงเรียกว่า "กินเจ" ดังนั้นความหมายของคนกินเจ ไม่เพียงแต่ไม่ทานเนื้อสัตว์ แต่ยังต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์ สะอาด ทั้งกาย วาจา ใจ

ในช่วงเทศกาลกินเจ เราจะสังเกตเห็นธงประจำเทศกาล โดยมีพื้นธงเป็นสีเหลืองซึ่งเป็นสีที่อนุญาตให้ใช้กับคนสองกลุ่มเท่านั้น คือกลุ่มกษัตริย์ ราชวงศ์ และกลุ่มอาจารย์ปราบผี ดังจะเห็นจากยันต์สีเหลืองตามภาพยนตร์จีน ดังนั้นสีเหลืองจึงเป็นสีของพุทธศาสนา หรือผู้ทรงศีล บนธงจะเขียนตัวอักษรสีแดง อ่านว่า "ไจ" หรือ "เจ" มี การกินอาหารเจ นอกจากจะเป็นการถือศีลรักษาประเพณี และละเว้นชีวิตแล้ว ยังให้ประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้

1. ร่างกายสามารถขับถ่ายของเสียออกได้หมดทำให้ ไม่มีสารพิษตกค้างอยู่ภายใน เพราะสารอาหารจากพืชผักและผลไม้จะช่วยให้ระบบขับถ่ายและการย่อยเป็นปกติ

2. เมื่อรับประทานเป็นประจำ โลหิตจะถูกฟอกให้สะอาดขึ้นเรื่อยๆ เซลล์ต่างๆ ของร่างกายเสื่อมสลายช้าลง ทำให้อายุยืนยาวมีผิวพรรณสดชื่นผ่องใส ร่างกายแข็งแรงรู้สึก มีสุขภาพดี 3. อวัยวะหลักสำคัญภายใน ได้แก่ หัวใจ ไต ม้าม ตับ ปอด และอวัยวะประกอบคือ ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ กระเพาอาหาร ถุงน้ำดี แข็งแรงทำงานได้เป็นปกติสมบูรณ์ 4. ร่างกายสามารถต้านทานต่อสารพิษต่างๆ ได้แก่ สารเคมี ยาฆ่าแมลง มลภาวะ และก๊าซพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ในอุตสาหกรรม ไอเสียจากเครื่องจักร เครื่องยนต์ ซึ่งสารอาหารในพืชผัก จะช่วยให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายสามารถทนต่อการทำลายจากรังสีต่างๆ ได้

5. สามารถต้านทานสารพิษได้สูงกว่าคนปกติ ในบรรดาผู้ที่ทานเจมักไม่ปรากฎโรครุนแรงหรือเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดตีบ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคไต ฯลฯ โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบขับถ่าย ย่อยอาหารและทางเดินอาหาร เช่น โรคริดสีดวงทวาร มะเร็งในกระเพาะและลำไส้ โรคกระเพาะ อาหารไม่ย่อย โรคเหล่านี้จะไม่พบเลยในกลุ่มคนผู้ที่รับประทานอาหารเจ อาหารพืชผักและผลไม้เป็นประจำ

6.การกินเจทำให้เกิดความเมตตา เกิดความสงบสุขุม อารมณ์ไม่ฉุนเฉียว ไม่โมโหง่าย ซึ่งจะช่วยเกื้อกูลส่งเสริมให้บารมีธรรมสูงขึ้นเรื่อยๆ

7.หยุดการสร้างบาป เวรกรรม ทำให้ไม่เกิดการอาฆาต พยาบาท จึงปราศจากศัตรูทั้งมนุษย์และสัตว์ที่คิดมุ่งทำร้ายตามจองเวร ความหมายว่า "ของไม่มีคาว" เหตุที่ใช้สีแดง เพราะชาวจีนเชื่อว่า เป็นสีมงคง สร้างความเจริญให้แก่ชีวิต ธงเจนอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ของอาหารเจแล้ว ยังเป็นการเตือนให้พุทธศาสนิกชนที่ปฏิบัติตนถือศีลกินเจได้ตระหนักถึงการไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ และการตั้งอยู่ในศีลตลอดช่วงระยะเวลา 9 วัน 9 คืน

วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552

-*-World TRade CeNteR-----!@!*-*


เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (อังกฤษ: World Trade Center) เป็นกลุ่มอาคารจำนวน 7 ตึกในนครนิวยอร์ก ก่อสร้างระหว่าง พ.ศ. 2509-2520 (เวลารวมในการก่อสร้างครบ 7 ตึก) ออกแบบโดยสถาปนิกลูกครึ่งอเมริกัน-ญี่ปุ่น มิโนรุ ยามาซากิ ร่วมด้วยบริษัท เอเมอร์รี่ รอท แอนด์ซันส์ ตึกคู่แฝด 2 ถูกทำลายในเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ. 2544 และตึกอื่น ๆ เสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้.

เมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 ได้มีการปล้นเครื่องบินพาณิชย์และพุ่งเข้าชนอาคารแฝดซึ่งได้แก่ อเมริกัน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 11 ชนตึกWTC1ตรงบริเวณชั้นที่90-95 และ ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 175 ชนตึกWTC2บริเวณชั้นที่75-90 ในภายหลังจากการชนตึกทั้งสอง ตึกทั้งสองได้ถล่มลงมา โดยที่อาคารแรกที่ถล่มคือตึกWTC2ซึ่งระยะเวลาที่เครื่องถูกชนจนตึกถล่มคือ1ชั่วโมงเศษ และตึกWTC1ถล่มที่หลังจากที่อาคารที่2เพียง45นาที หรือ ระยะเวลาที่เครื่องถูกชนจนตึกถล่มคือ1ชั่วโมง45นาที อาคารหมายเลข 7 ถล่มในวันถัดมาเนื่องจากการถล่มของอาคารทั้งคู่เป็นเหตุที่ทำให้รากฐานของตัวตึกเริ่มที่จะไม่มั้นคงประกอบกับตัวอาคารเกิดไฟไหม่ทำให้โครงเหล็กคำยันของอาคารWTC7ถล่มลงโชคดีที่มีการอพยพผู้คนออกจากตึกนี้ก่อนที่มันจะถล่มลงมา ส่วนอาคารที่เหลืออีก 4 อาคารเสียหายอย่างหนักเนื่องจากถูกตึก 1 ตึก 2 ถล่มลงมาทับ มีผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ 2,749 คน.

อาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์มีแผนการก่อสร้างใหม่ในชื่อ Memory Foundation ซึ่งประกอบด้วยอาคาร ฟรีดอมทาวเวอร์ (Freedom Tower) สูง 1,776 ฟุต (541 ม.) มีการปรับปรุงแบบหลายครั้ง ในที่สุดได้แบบสุดท้ายโดยสถาปนิกชื่อลิเบสกินด์ (Libeskind) และภูมิสถาปนิกชื่อ ปีเตอร์ วอล์คเกอร์ (Peter Walker) ผู้ออกแบบลานอนุสรณ์สถาน อาคารหมายเลข 7 ได้มีการสร้างเสร็จก่อน ในช่วงต้นปี 2549 ส่วนอาคาร Freedom Tower จะสร้างเสร็จประมาณปีพ.ศ. 2554 หรือค.ศ. 2011


วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552

UHh!!! Tokyo--/--/--/--/--/--/--In JApAN**-*-*-*-*-*-


Tōkyō (東京) est la capitale administrative de facto du Japon depuis 1868, en tant que lieu de résidence de l'Empereur du Japon, du Premier ministre et siège de la Diète (le parlement japonais), du Cabinet, de tous les ministères qui le constituent et de toutes les ambassades étrangères. Ce statut n'est toutefois pas défini par la Constitution. Elle constitue le principal centre politique de l'archipel depuis le XVIIe siècle.
Mondialement réputée pour son aspect alliant ultra-modernité et tradition, elle est caractérisée par ses gratte-ciels, ses magasins de produits électroniques et de matériels Hi-Fi, mais aussi par ses nombreux sanctuaires shinto et temples bouddhistes, notamment dans les arrondissements de Chiyoda, Shibuya ou Minato.
La métropole de Tōkyō ou préfecture de Tōkyō forme l'une des 47 préfectures du Japon, mais dispose d'un statut administratif particulier de préfecture métropolitaine. L'agglomération de Tōkyō toutefois s'étend au-delà des limites territoriales de la préfecture, rayonnant sur une large frange de la baie de Tōkyō, ainsi que sur la région du Kantō. L'agglomération de Tōkyō, quelle que soit la manière dont on la définit, forme l'aire urbaine la plus peuplée au monde.

Dénomination de Tōkyō et de ses habitants.

En japonais, le nom de la ville s'écrit 東京 (prononciation).
En français, on ne prononce pas le nom de la ville comme en japonais et l'on écrit généralement « Tokyo », ce qui correspond à la prononciation française /tɔ.kjo/. L'ancienne graphie Tokio qui était utilisée en français au début du XXe siècle, est toujours utilisée en allemand et en espagnol, ainsi qu'en espéranto (entre autres).
Pour la France, l'arrêté du 4 novembre 1993 relatif à la terminologie des noms d'États et de capitales, pris conjointement par les ministres des Affaires étrangères et de l’Éducation nationale, « recommande » la seule graphie Tokyo. Il en va de même de la commission de toponymie de l'Institut géographique national français et du code de rédaction interinstitutionnel de l'Union européenne. Les Japonais eux-mêmes utilisent parfois la graphie Tokyo dans leur retranscription en rōmaji du nom de la ville.

วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2552

--ง่ายๆๆกับการลดความ---อิอิ--


ความอ้วน!!ไม่เพียงแต่จะทำให้ร่างกายไม่สวยงาม ยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้หลายทาง คนที่มีน้ำหนักมากเกินควร จะมีโอกาสเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคเบาหวานได้ง่ายกว่าคนปกติ ธรรมดา เพราะฉะนั้น ความอ้วน จึงถือเป็นโรคชนิดหนึ่งที่ต้องทำการรักษาแก้ไข เป็นที่ทราบกันดีว่าการลดน้ำหนักนั้น เป็นเรื่องยากลำบาก ต้องพยายามอดอาหาร หรือทานน้อยลง แล้วยังต้องออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ บางคนลดอาหารอยู่ได้ไม่นานก็หมดกำลังใจ กลับมาทานมากตามเดิม บางคนพยายามเดิน วิ่ง กระโดดเชือก หรือว่ายน้ำอยู่ได้ไม่กี่อาทิตย์ ก็รู้สึกเบื่อหน่าย ล้มเลิกไป การไปหาหมอให้ฉีดยาขับน้ำออกจากร่างกายมักจะมีผลแต่เพียงระหว่างเวลาที่ทำการรักษา เมื่อหยุดไป น้ำหนักก็ค่อยๆ เพิ่มกลับมา วิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพดี ในการช่วยลดความอ้วน โดยไม่ต้องลดจำนวนอาหารที่เราทานอยู่ หรือหักโหม ออกกำลังกายจนเกินควร วิธีนี้ขึ้นอยู่กับการรู้จักลักษณะของอาหารชนิดต่างๆ ที่เราบริโภค ประกอบกับการออกกำลังการเพียงเล็กน้อย...

สิ่งแรกที่จะต้องระลึกอยู่เสมอ คือ อาหารชนิดต่างๆ ที่เรารับประทานนี้ มีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน อาหารบางชนิดมีจำนวน Calories สูง ทานแล้วอ้วน บางอย่างมีจำนวน Calories ต่ำ ทานได้จนอิ่ม น้ำหนักก็ไม่ขึ้น ตัวอย่างเช่น ถ้าทานเนื้อหมู 100 กรัม ร่างกายจะได้รับพลังงานถึง 400 Calories แต่ ถ้าท่านทานแตงกวา 100 กรัม ร่างกายจะได้รับพลังงานเพียง 15 Calories วันๆ หนึ่ง มนุษย์เราต้องการพลังงานจากอาหารเพียง 2000 ถึง 3000 Calories เท่านั้น คนที่นั่งๆ นอนๆ ไม่ค่อยออกกำลังกาย จะมีความต้องการพลังงานน้อย คนที่เล่นกีฬาออกกำลังอยู่เสมอ จะมีคามจำเป็นต้องได้พลังงานจากอาหารมากกว่า เพราะฉะนั้น ข้อแรกในการลดน้ำหนัก คือพยายามไม่ทานอาหารจำพวก Calories มากกว่าที่ร่างกายต้องการ สตรีไทยส่วนมาก รูปร่างไม่ใหญ่ และไม่ค่อยออกกำลังมากในชีวิตประจำวัน ทานอาหารเพียงวันละ 1500 ถึง 2000 Calories ก็จะมีรูปร่างสวยงามได้

สิ่งที่สองที่ควรทราบ คือ อาหารแต่ละชนิดที่ท่านทานนี้ มีส่วนประกอบสำคัญอยู่ 3 อย่าง คือ ไขมัน ( fat โปรตีน ( protein ) และแป้ง ( carbohydrate ) ตัวที่เป็นอันตรายต่อร่างกายที่สุด คือ ไขมัน ไขมัน หรือ fat นี้ มีจำนวน Calories อยู่สูงมาก ทานเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้อ้วนได้ คนที่ทานไขมันมาก จะมีไขมันอยู่ที่ร่างกายมากเกินควร ตามส่วนต่างๆ เช่น ใบหน้า ท้อง แขน ขา และสะโพกดูอุ้ยอ้ายน่าเกลียด เวลาตรวจเลือดดู จะพบไขมันอยู่ใน 2 ลักษณะ เป็นแบบ Cholesterol และแบบ Triglycerides เวลาไปให้แพทย์ตรวจร่างกาย ควรบอกให้หมอตรวจดูระดับของ Cholesterol และTriglycerides ในเลือดด้วย คนที่มีสุขภาพดี ระดับ Cholesterol ไม่ควรเกิน 250 mg.% และระดับ Triglycerides ไม่ควรเกิน 135 mg.% ถ้าเรามีไขมันในเส้นเลือดและในร่างกายมากเกินไป มันจะไปฝังตัวในเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงหัวใจ ทำให้เส้นเลือดนี้ตีบ และหัวใจวายเสียชีวิตตั้งแต่อายุน้อย นอกจากนั้น ยังเป็นที่ เชื่อกันว่าทานอาหารที่มีไขมันสูง อาจทำให้เป็น โรคมะเร็งในลำไส้ และมะเร็งในเต้านมได้ ...

วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552

----AirPlAne+++


เครื่องบิน คือ พาหนะสำหรับเดินทางที่สามารถเคลื่อนที่หรือบินไปในอากาศได้ (อากาศยาน) โดยเครื่องบินเป็นอากาศยานที่หนักกว่าอากาศ เครื่องบินสามารถบินได้โดยอาศัยแรงยกจากปีกตามหลักการของอากาศพลศาสตร์ (อากาศยานที่เบากว่าอากาศถูกเรียกว่า "เรือเหาะ") เครื่องบินมีทั้งแบบที่ใช้เครื่องยนต์ และไม่ใช้เครื่องยนต์ เครื่องบินแบบที่ไม่ใช้เครื่องยนต์จะมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า เครื่องร่อน
เครื่องบินที่มีใช้งานอยู่ทั้งสิ้นเป็นอากาศยานปีกตรึง (อังกฤษ: fixed-wing aircraft) ส่วนอากาศยานปีกหมุน/เฮลิคอปเตอร์ หรือที่บางแห่งเรียกว่า เครื่องบินปีกหมุน เป็นอากาศยานอีกชนิดหนึ่งที่มีจำนวนรองลงไป

มีหลายทฤษฎีที่ใช้อธิบายการบินของเครื่องบิน (แต่จนถึงวันนี้ยังมีการโต้แย้งว่าคำอธิบายต่างๆ ยังไม่สมบูรณ์)
ทฤษฎีการเคลื่อนที่ของอากาศ (กฎของแบร์นูลลี) ที่ว่า อากาศที่เคลื่อนที่เร็วกว่าจะมีแรงกดดันต่ำกว่า โดยออกแบบให้ปีกของเครื่องบินมีความโค้งทางด้านบนและเรียบแบนทางด้านล่าง อากาศที่เคลื่อนที่ผ่านใต้ปีกเครื่องบินจะมีความเร็วต่ำกว่าทางด้านบนของปีกเครื่องบิน ความดันใต้ปีกเครื่องบินจึงสูงกว่าความดันเหนือปีกเครื่องบิน ทำให้เกิดแรงยกขึ้น ทำให้เครื่องบินบินได้
ทฤษฎีของนิวตันกับแรงยก ที่ว่าแรงยกที่ทำให้เครื่องบินบินได้เกิดจากปีกเคลื่อนที่ด้วยความเร็วทำ มุมปะทะ (อังกฤษ: angle of attack) ที่เหมาะสมกับอากาศ และแรงยกนี้เท่ากับโมเมนต์(moment) ที่เปลี่ยนไปของอากาศ ที่ถูกปีกของเครื่องบินบังคับให้ไหลลงข้างล่าง (พฤติกรรมที่อากาศถูกบังคับให้ไหลลงข้างล่างนี้เรียกว่า "การล้างลง" อังกฤษ: downwash)

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Fête des Mères


La fête des Mères est une fête annuelle célébrée par les enfants en l'honneur de leur mère dans de nombreux pays. À cette occasion, les enfants offrent des cadeaux à leur mère, des gâteaux ou des objets qu'ils ont confectionnés à l'école, comme un collier de nouilles par exemple.
Compte tenu de la longévité de la vie, cette fête est marquée également par les adultes de tous âges pour honorer leur mère.

Les premières traces de célébration en l'honneur des mères sont présentes dans la Grèce antique lors des cérémonies printanières en l'honneur de Rhéa (ou Cybèle), la Grande Mère des dieux. Ce culte était célébré aux Ides de Mars dans toute l'Asie mineure :
La Grèce antique fêtait au printemps la déesse Rhéa, mère de Zeus et de ses frères et sœurs
Une fête religieuse romaine célébrait les matrones le 1er mars, lors des Matronalia
Au XVe siècle, les Anglais fêtaient le Mothering Sunday, d'abord au début du carême puis le quatrième dimanche du printemps
1908 : les États-Unis instaurent le Mother's Day, en souvenir de la mère de l'institutrice Anna Jarvis
1914 : le Royaume-Uni l'adopte à son tour
1932 : l'Allemagne l'officialise

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Robot


"Robots" redirects here. For other uses, see Robot (disambiguation).

ASIMO, a humanoid robot manufactured by Honda
A robot is a
virtual or mechanical artificial agent. In practice, it is usually an electro-mechanical system which, by its appearance or movements, conveys a sense that it has intent or agency of its own. The word robot can refer to both physical robots and virtual software agents, but the latter are usually referred to as bots. There is no consensus on which machines qualify as robots, but there is general agreement among experts and the public that robots tend to do some or all of the following: move around, operate a mechanical limb, sense and manipulate their environment, and exhibit intelligent behavior, especially behavior which mimics humans or other animals. In South Africa, robot is an informal and commonly used term for a set of traffic lights.
Stories of artificial helpers and companions and attempts to create them have a long history but fully
autonomous machines only appeared in the 20th century. The first digitally operated and programmable robot, the Unimate, was installed in 1961 to lift hot pieces of metal from a die casting machine and stack them. Today, commercial and industrial robots are in widespread use performing jobs more cheaply or with greater accuracy and reliability than humans. They are also employed for jobs which are too dirty, dangerous or dull to be suitable for humans. Robots are widely used in manufacturing, assembly and packing, transport, earth and space exploration, surgery, weaponry, laboratory research, and mass production of consumer and industrial goods.
Modern robots are usually used in tightly controlled environments such as on
assembly lines because they have difficulty responding to unexpected interference. Because of this, most humans rarely encounter robots. However, domestic robots for cleaning and maintenance are increasingly common in and around homes in developed countries, particularly in Japan. Robots can also be found in the military.


History

Many ancient mythologies include artificial people, such as the mechanical servants built by the Greek god Hephaestus[18] (Vulcan to the Romans), the clay golems of Jewish legend and clay giants of Norse legend, and Galatea, the mythical statue of Pygmalion that came to life. In Greek drama, the Deus Ex Machina was contrived, literally God from the machine, as a dramatic device that usually involved lowering a deity, usually Zeus, by wires into the play to solve a seemingly impossible problem.
In the 4th century BC, the Greek mathematician
Archytas of Tarentum postulated a mechanical steam-operated bird he called "The Pigeon". Hero of Alexandria (10–70 AD) created numerous user-configurable automated devices, and described machines powered by air pressure, steam and water. Su Song built a clock tower in China in 1088 featuring mechanical figurines that chimed the hours.
Al-Jazari's programmable humanoid robots
Al-Jazari (1136–1206), a Muslim inventor during the Artuqid dynasty, designed and constructed a number of automated machines, including kitchen appliances, musical automata powered by water, and the first programmable humanoid robots in 1206. The robots appeared as four musicians on a boat in a lake, entertaining guests at royal drinking parties. His mechanism had a programmable drum machine with pegs (cams) that bumped into little levers that operated percussion instruments. The drummer could be made to play different rhythms and different drum patterns by moving the pegs to different locations.

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552

The florest in Thailand!!!!!!!!!


ป่าไม้ของประเทศไทยสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ ป่าไม้ไม่ผลัดใบ และป่าไม้ผลัดใบ
สำหรับป่าไม้ไม่ผลัดใบนั้นมีประมาณ 30 % ของเนื้อที่ป่าทั้งประเทศ แบ่งออกได้อีก 4 ชนิด ดังนี้
ป่าดิบเมืองร้อน (Tropical Evergreen Forest) เป็นป่าที่อยู่ในเขตที่มีมรสุมพัดผ่านอยู่เกือบตลอดทั้งปี มีปริมาณน้ำฝนมาก ดินมีความชื้นอยู่ตลอดเวลา ขึ้นอยู่ทั้งในที่ราบและที่เป็นภูเขาสูง มีกระจายอยู่ทั่วไปตั้งแต่ภาคเหนือไปถึงภาคใต้ แบ่งย่อยตามสภาพความชุ่มชื้นและความสูงต่ำของภูมิประเทศ คือ ป่าดิบชื้น (Tropical Rain Forest) ป่าดิบแล้ง (Dry Evergreen Forest) และ ป่าดิบเขา (Hill Evergreen Forest)
ป่าสน (Coniferous Forest) ป่าสนมีกระจายอยู่เป็นหย่อมๆ ตามภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ยังมีอยู่ตามที่เขาและที่ราบบางแห่งที่มีระดับสูงจากน้ำทะเลตั้งแต่ 200 เมตรขึ้นไป บางครั้งพบขึ้นอยู่ปนกับป่าแดงและป่าดิบเขา ป่าสนมักขึ้นในที่ดินไม่อุดมสมบูรณ์ เช่น สันเขาที่ค่อนข้างแห้งแล้ง
ป่าพรุ (Swamp Forest) คือป่าที่อยู่ตามที่ราบลุ่มมีน้ำขังอยู่เสมอและตามริมฝั่งทะเลที่มีโคลนเลนทั่วๆ ไป ปริมาณน้ำฝนไม่น้อยกว่า 2,000 ม.ม ต่อปี แบ่งย่อยได้เป็น 2 ชนิด คือ ป่าพรุหรือป่าบึงน้ำจืด (Fresh Water Swamp Forest) และ ป่าชายเลน (Mangrove Swamp Forest)
ป่าชายหาด (Beach Forest) เป็นป่าที่มีอยู่ตามชายฝั่งทะเลที่เป็นดินกรวด ทรายและโขดหินพันธุ์ไม้จะต่างจากที่ที่น้ำท่วมถึง ถ้าชายฝั่งเป็นดินทรายก็มีสนทะเล พืชชั้นล่างก็จะมีพวกตีนนก และพันธุ์ไม้เลื้อยอื่นๆ อีกบางชนิด ถ้าเป็นกรวดหรือหิน พันธุ์ไม้ที่ขึ้นส่วนใหญ่ก็เป็นพวกกระทิง หูกวาง เป็นต้น
สำหรับป่าไม้ผลัดใบ (Deciduous Forest) แบ่งได้ 3 ชนิด คือ
ป่าเบญจพรรณ (Mixed Deciduous Forest) ป่าชนิดนี้มีอยู่ทั่วไปในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ป่าชนิดนี้มักจะมีไม้สักขึ้นอยู่ปะปนทั่วไป ลักษณะของป่าเบญจพรรณเป็น ป่าโปร่งประกอบด้วยต้นไม้ขนาดกลางเป็นส่วนมาก พื้นที่ป่าไม่รกทึบมีไม้ไผ่ชนิดต่างๆ ขึ้นอยู่มาก ในฤดูแล้งต้นไม้ทั้งหมดจะพากันผลัดใบและมีไฟป่าไหม้อยู่ทั้งปี
ป่าแพะ ป่าแดง ป่าโคก หรือป่าเต็งรัง (Deciduous Dipterocarp Forest) ป่าชนิดนี้ปรากฏอยู่มากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งนับว่ามีมากที่สุด คือประมาณ 70-80% ของป่าชนิดต่างๆ ที่มีอยู่ ในภาคนี้ทั้งหมด ป่าชนิดนี้มีอยู่ทั่วไปทั้งที่ราบและที่เขาสูง ดินมักเป็นทรายและลูกรัง ซึ่งจะมีสีค่อนข้างแดง ในบางแห่งจึงเรียกว่าป่าแดง ส่วนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีป่าขึ้นตามเนินที่เรียกว่าโคก จึงเรียกว่าป่าโคก ลักษณะป่าชนิดนี้เป็นป่าโปร่งมีต้นไม้ขนาดเล็กและขนาดกลางขึ้น อยู่กระจัดกระจาย พื้นป่าไม้รกทึบ มีหญ้าชนิดต่างๆ และไม้ไผ่ขึ้นอยู่ทั่วไป
ป่าหญ้า (Savanna Forest) เป็นป่าที่เกิดหลังจากที่ป่าชนิดอื่นๆ ถูกทำลายไปหมด ดินเสื่อมโทรม ต้นไม้ไม่อาจเจริญเติบโตต่อไปได้ พวกหญ้าจึงเข้ามาแทนที่พบได้ทุกภาคในประเทศ หญ้าที่ขึ้นส่วนใหญ่เป็นหญ้าคาแฝกหอม เป็นต้น และอาจมีต้นไม้ขึ้นบ้าง เช่น กระโดน กระถินป่า ประดู่ซึ่งเป็นพวกทนทานไฟป่าได้ดี

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Pandaaaaaa!!!


Le Panda géant (熊貓 en pinyin :熊 xióng « ours »; 貓 māo « chat »), Ailuropoda melanoleuca (« pied-de-chat noir et blanc »), est un mammifère habituellement classé dans la famille de l'ours (Ursidae), indigène dans la Chine centrale.
Il ne vit que dans le centre de la Chine, dans des régions montagneuses recouvertes de forêts d'altitude, comme le Sichuan et le Tibet, entre 1 800 et 3 400 mètres. Une région difficile d'accès aux Européens avant le milieu du XIXe siècle, ce qui explique sa description tardive en Occident.
Morphologiquement, son nom chinois est « chat-ours ». En tibétain son nom est byi-la dom (chat-ours). Le nom latin scientifique du Panda géant est Ailuropoda melanoleuca, melanoleuca signifiant « noir-blanc ».
On le lie également au Panda rouge, mais le nom commun semble dériver de leur alimentation. Jusqu'à ce que sa relation avec le Panda rouge ait été découverte en 1901, le Panda géant était connu sous le nom de « parti-coloured bear ».
La classification taxonomique précise du panda a longtemps été discutée ; certains le considèrent plus étroitement lié aux ratons laveurs (Procyonidae) qu'aux ours, avec lesquels il a pourtant 90 % de patrimoine génétique commun.
L'espèce Ailuropoda melanoleuca ne contient qu'une seule sous-espèce, Ailuropoda melanoleuca qinlingensis , le Panda de Qinling

วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2552

I... LoVe... DeSSeRT...


Dessert is a course that typically comes at the end of a meal, usually consisting of sweet food but sometimes of a strongly-flavored one, such as some cheeses. The word comes from the French language as dessert and this from Old French desservir, "to clear the table" and "to serve." Common desserts include cakes, cookies, fruits, pastries, ice cream, and candies.
The word dessert is most commonly used for this course in U.S., Canada, Australia, and Ireland, while sweet, pudding or afters would be more typical terms in the UK and some other Commonwealth countries, including India. According to Debrett's, pudding is the proper term, dessert is only to be used if the course consists of fruit, and sweet is colloquial. This, of course, reflects the upper-class/upper-middle-class usage. More commonly, the words simply form a class shibboleth; pudding being the upper-class and upper-middle-class word to use for sweet food served after the main course, sweet, afters and dessert being considered non-U. However, dessert is considered slightly better than the other two, owing to many young people, whose parents say pudding, acquiring the word from American media. Although the custom of eating fruits and nuts after a meal may be very old, dessert as a standard part of a Western meal is a relatively recent development.[citation needed] Before the rise of the middle class in the 19th-century, and the mechanization of the sugar industry, sweets were a privilege of the aristocracy, or a rare holiday treat. As sugar became cheaper and more readily available, the development and popularity of desserts spread accordingly.
Some have a separate final sweet course but mix sweet and savory dishes throughout the meal as in Chinese cuisine, or reserve elaborate dessert concoctions for special occasions. Often, the dessert is seen as a separate meal or snack rather than a course, and may be eaten apart from the meal (usually in less formal settings). Some restaurants specialize in dessert. In colloquial American usage "dessert" has a broader meaning and can refer to anything sweet that follows a meal, including milkshakes and other beverages.
Desserts are often eaten with a dessert spoon, intermediate in size between a teaspoon and a tablespoon.

วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Chocolate Chocolate Chocolate +++


ขึ้นชื่อว่า ช็อคโกแล็ต บรรดานักชิมคงจะอดใจยากที่จะไม่ลิ้มลอง ตัวเลขบนตราชั่งที่ทำให้นักชิมทำใจไม่ได้ คือผลที่ตามมาหลังจากจัดการ กับของหวานชิ้นโปรดไปแล้ว เอ.. อย่างนี้ก็เท่ากับ ช๊อกโกแล็ต กินแล้วอ้วน แล้วผลร้ายอื่นๆที่ตามมามีหรือเปล่านะ น่าสงสัย ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ช๊อกโกแล็ตให้คุณหรือโทษ ขึ้นอยู่กับปริมาณที่คุณรับประทานมันเข้าไป เมื่อไม่นานมานี้ มีการรายงานผลการวิจัยเกี่ยวกับการบริโภคช๊อกโกแล็ต ขนมหวานยอดนิยมในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ ที่ว่า ช๊อกโกแล็ตนั้น มีสาร antioxidant เป็นส่วนประกอบสำคัญ ทำให้ดูเหมือนว่า ช๊อกโกแล็ตเป็นอาหารเสริมสุขภาพ เสียมากกว่าจะเป็นของหวานทำลายสุขภาพ ซึ่งก็จริงอยู่ที่ว่า ช๊อกโกแล็ตนั้นมีส่วนช่วยป้องกัน ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจหรือแม้กระทั่งมีคุณประโยชน์ในการป้องกันมะเร็งบางชนิดได้ แต่ถ้าหากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปแล้วละก็ จะทำให้มีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกิน อันเป็นสาเหตุของโรคร้ายอีกหลายชนิดจากรายงานล่าสุดของ American Journal of Clinical Nutrition ระบุว่า ประโยชน์ที่จะได้รับจากการรับประทานช๊อกโกแล็ตนั้น จะมีความสัมพันธ์กับการได้รับปริมาณ ช๊อกโกแล็ตและโกโก้เพียงเล็กน้อย โดยเมื่อเรารับประทานช๊อกโกแล็ตดำประมาณครึ่งออนซ์ หรือแป้งโกโก้ที่ไม่ใส่น้ำตาล 1 ใน 4 ช้อนโต๊ะ ความสามารถในการ antioxidant ของร่างกายจะเพิ่มขึ้นประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ และ LDL ซึ่งเป็น bad cholesterol ก็จะลดลงด้วย โดย antioxidant นั้นเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ทั้งโกโก้ และช๊อกโกแล็ต มีส่วนประกอบสำคัญเรียกว่า Flavonoid ซึ่งพบได้ในผักและชา Flavonoid นี้ สามารถป้องกันเซลของร่างกาย ไม่ให้ทำปฏิกริยากับอณูที่เรียกว่า Free Radical ซึ่งเป็นตัวการในการของโรคหัวใจและการก่อให้เกิดเซลมะเร็ง นอกจากนี้ ยังมีรายงาน ของ Journal of Agricultural and Food Chemistry ที่ระบุว่าสาร Antioxidant ของโกโก้นั้น ให้ผลไม่ต่างจากชาดำและชาเขียว ในขณะเดียวกันบทความใน Experimental Biology and Medicine ก็ระบุว่า สาร Antioxidant ในโกโก้ และช็อคโกแลต ยังสามารถป้องกันเซลจากความเสียหาย อันจะเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการพัฒนาเซลมะเร็ง อีกทั้งส่วนประกอบในโกโก้ ยังสามารถสกัดกั้นการเติบโตของเซลมะเร็งลำไส้ ในร่างกายมนุษย์ได้ด้วย

วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Wo0!!! Évolution du nom « France » et du territoire.


Francia désigne à l’origine la région du nord de l’Europe, peuplée, ou plutôt dominée par un peuple de guerriers germaniques qui se nomment eux-mêmes les Francs. Francia est une adaptation latine du IIIe siècle du terme Franko(n), nom que donnaient les Francs à leur domaine, alors situé probablement dans l'actuelle Flandre belge. En effet, dès les IIIe et IVe siècles les Romains avaient déjà des contacts avec les Francs, qu'ils enrôlaient comme mercenaires dans leur armée, et ce, bien avant les invasions germaniques proprement dites. Francia n’a alors pas une connotation politique mais plutôt géographique ou sociologique, comme le Maghreb ou les Balkans au XXIe siècle. Le peuple franc est avant tout un peuple de guerriers qui élit un chef de guerre nommé roi des Francs, et se place librement sous son autorité pour les affaires militaires. La guerre étant considérée comme la valeur par excellence de l’homme libre, franc finit par devenir synonyme de libre. En langue francique carolingienne le territoire de peuplement franc était dénommé Franchonolant (« Frankenland », "ch" représentant un [k] guttural), tandis que le territoire de peuplement gallo-romain était dénommé Uualholant (« Welschland », cf. aussi Wallonie et Gaule).
En
1204, le mot Francia désigne, pour la première fois, le territoire sur lequel s’exerce l’autorité de ce roi des Francs, qui commence sporadiquement à se nommer rex Francie sous saint Louis. Cette autorité se limite encore à celle qu’autorise le lien de vassalité, et ne porte donc que sur les seigneurs eux-mêmes, à l’exclusion de leurs territoires, de la population de ceux-ci, et même des propres vassaux de ces seigneurs. On peut donc par exemple rapprocher cet événement de l’utilisation à partir de 1957 dEurope dans un sens politico-économique. Ceci ouvre toutefois la porte au concept d’une autorité civile du roi sur un territoire. Mais il faut attendre le XVe siècle pour que ce concept soit reconnu, bon gré mal gré, sinon accepté (guerre folle), par la plupart des seigneurs.