ลักษณะเด่นขนดก แน่น และหยิกงอน สีขนเป็นสีเทา สีเงิน สีดำ สีขาว สีเทาน้ำเงิน สีน้ำตาลหรือสีครีม
นิสัยพุดเดิ้ลที่มีสายพันธุ์ดีจะเป็นสุนัขที่ฉลาดและตอบสนองไวที่สุดในบรรดาสุนัขทั้งหมด พุดเดิ้ลมีด้วยกัน 3 ขนาด คือ ขนาดมาตรฐาน ขนาดเล็ก และขนาดทอย(ตุ๊กตา) พุดเดิ้ลทุกขนาดจะเป็นสุนัขที่น่าหยิกน่าหมั่นไส้ แสนประจบ ซน และขี้เล่น พุดเดิ้ลพันธุ์เล็กกับพันธุ์ทอยมีอุปนิสัยที่ไม่ค่อยไว้ใจคนแปลกหน้า และมีความอดทนกับเด็กน้อยกว่าพันธุ์สมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม พุดเดิ้ลเป็นสุนัขที่ฝึกง่าย สั่งให้ทำอะไรก็ทำ ซึ่งคุณก็ควรฝึกสอนตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วคุณจะเห็นว่ามันมีความสามารถในการทำตามคำสั่งที่ยอดเยี่ยมทีเดียว ข้อเสียของมันก็คือมันมีนิสัยชอบเห่า แต่คงเพราะตัวเล็กไปหน่อยจึงได้แต่เห่าอย่างเดียว ทำอะไรใครไม่ได้ สุนัขพันธุ์นี้เหมาะที่จะเลี้ยงในคอนโด แต่ก็ควรให้ได้รับการออกกำลังกายพอสมควรด้วย แต่ถ้าใครคิดจะเลี้ยงเจ้าพุดเดิ้ลขนาดจิ๋ว (เล็กกว่าพันธุ์ทอย) ก็จงระวังให้ดี เพราะมันค่อนข้างขี้โรคและมีอารมณ์หงุดหงิดง่าย
การตัดแต่งขนและการออกกำลังกาย สุนัขพันธุ์นี้ไม่ผลัดขนคุณจึงควรแปรงขนให้มันสัปดาห์ละหลายๆ ครั้ง และตัดแต่งขนให้ทุกๆ 4-6 สัปดาห์ และควรพาไปเดินเล่นในที่ที่ไม่มีคนพลุกพล่าน พันธุ์มาตรฐานต้องการการออกกำลังกายมากกว่าพันธุ์มินิเอเจอร์และทอย
ถิ่นกำเนิดพุดเดิ้ลพันธุ์สแตนดาร์ดมีต้นกำเนิดจากเยอรมันช่วงยุคกลาง เพื่อใช้คาบนกที่ตกลงในแม่น้ำหรือบึงมาให้นายพราน ดังนั้น ขนของมันจึงถูกเล็มออกเพื่อลดการต้านน้ำและให้ลอยตัวได้ดีขึ้น ในศตวรรษที่ 19 ฝรั่งเศสใช้พุดเดิลพันธุ์มาตรฐานในการเก็บนกที่ยิงตกลงไปในน้ำและในละครสัตว์ ในศตวรรษที่ 18 พันธุ์ทอยและมินิเอเจอร์ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นในประเทศอังกฤษ (ในรัชสมัยของควีนแอนน์) เพื่อใช้ในการหาเก็บเห็ดดำ ใช้ในการแสดง และเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน พุดเดิ้ล มาจากภาษาเยอรมัน ซึ่งแปลว่า "ตีน้ำกระเพื่อม"
ข้อควรระวังเป็นพิเศษควรซื้อลูกสุนัขจากผู้เพาะพันธุ์ที่มีชื่อเสียง ปัญหาสุขภาพของสายพันธุ์มาตรฐาน : โรคข้อสะโพกห่าง ปัญหาเรื่องตารวมทั้งจอรับภาพเสื่อมเรื้อรัง โรคลมบ้าหมู โรคท้องมาน โรคติดต่อทางผิวหนัง โรคไต ปัญหาสุขภาพของสายพันธุ์มินิเอเจอร์และพันธุ์ทอย : ปัญหาเรื่องตา หูตึง โรคกระดูกสะบ้าเคลื่อน โรคความผิดปกติทางหัวใจและเลือด โรคลมบ้าหมู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น